top of page

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

 

                มีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะ ยอดดอยภูคา มีเมฆปกคลุมตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว จึงมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ดอยภูคา เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ รวมทั้งเป็น แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่าน และยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ กล่าวคือ เป็นที่เชื่อกันว่าเทือกเขาดอยภูคาเป็นเมืองเก่าของบรรพบุรุษ ของคนเมืองน่านและในปัจจุบันนี้ก็ยังมีศาลเจ้าพ่อภูคา ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 31 ถนนสายปัง-บ่อเกลือ อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดน่านจุดเด่นของอุยานแห่งชาติดอยภูคา คือ การได้มาชมต้นชมพูภูคา (Bretschneidera sinensi ) พันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อ ว่าหายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เคยพบในมณฑลยูนนานของจีน ก่อนจะสูญพันธุ์ไป และมีการค้นพบอีกครั้งใน ประเทศไทยที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน พันธุ์ไม้ชนิดนี้จึง หลงเหลืออยู่ในโลกเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ประเทศไทย

 

               ในรอบหนึ่งปี ชมพูภูคาจะออกดอกสีชมพูเป็นช่อสวย สดใสเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้นซึ่ง เป็นช่วง เวลาที่ดีที่สุด นอกจากนี้ี้บนดอยภูคายังมีทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง มี น้ำตกภูฟ้า น้ำตก ผาขี้นก น้ำตกแม่จริม น้ำตกต้นตอง น้ำตกตาดหลวง น้ำตกห้วยโกร๋น มีถ้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น ถ้ำ ผาฆ้อง ถ้ำหลวง ถ้ำผาแดง ถ้ำผาแง่ม ถ้ำผาเก้า มีธารน้ำลอด พระลานหินและหน้าผา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ทาง ธรรมชาติที่งดงาม มหัศจรรย์มาก รวมทั้งป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ของไทย

 

               สิ่งเด่นที่น่าสนใจของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

 

               1. ต้นชมพูภูคาเป็นพรรณไม้ที่มีชนิดเดียวในโลก ในประเทศไทยพบเพียงที่เดียวที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ต้นชมพูภูคา เป็นไม้ยืน ต้นขนาดใหญ่ สูงถึง 25 เมตร เปลือกเรียบ สีเทาอ่อน ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

 

               2.เต่าร้างยักษ์ (เต่าร้างน่านเจ้า) เป็นไม้เฉพาะถิ่นของดอยภูคา จัดเป็นประเภทปาล์มลำต้นเดี่ยว สูงประมาณ 40 เมตร ยังไม่มีรายงานว่าพบที่ใด ในโลก

 

               3. ก่วมภูคา เป็นพรรณไม้ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย จัดเป็นไม้ผลัดใบ พืชวงศ์เดียวกับเมเปิ้ล ลำต้นสูงประมาณ 15 - 20 เมตร ใบอ่อนสีแดงเว้า 5 แฉก ใบแก่สีเขียว 3 แฉก นอกจากนี้ยังมีพรรณไม้หายาก อาทิ จำปีช้าง ไข่นกคุ้ม ค้อเชียงดาว โลดทะนงเหลือง ขาวละมุน เทียนดอย เสี้ยวเครือ มะลิหลวง สาลี่หนุ่ม เหลือละมุน กุหลาบขาว เชียงดาว ฯลฯ

 

               4. ถ้ำผาแดง, ถ้ำผาผึ้งเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยอันความสวยงามและยังมีลำธาร น้ำตกภายในถ้ำด้วยเป็นถ้ำที่ยาวมากที่สุดใน อุทยานฯ ตั้งอยู่ในบริเวบ้านมณีพฤกษ์ อ.ทุ่งช้าง (อ่านรายละเอียดในบ้านมณีพฤกษ์)

 

               5. ถ้ำผาฆ้องเป็นถ้ำขนาดกลาง ปากถ้ำจะมีขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยอันสวยงามและลำธารไหลผ่านใน ช่วงฤดูฝน ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวได้เพราะภายในถ้ำอาจมีน้ำท่วม อย่ระหว่างทางขึ้นอุทยานฯ

 

               6. น้ำตกต้นตองเป็นน้ำตกหินปูน ขนาดกลาง มี 3 ชั้น สูงประมาณ 60 เมตร อยู่บริเวณใกล้ๆที่ทำการอุทยานฯ

 

               7. น้ำตกวังเปียนอยู่ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 8 (บ้านห้วยโกร๋น) เขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ

 

               8.จุดชมวิวลานดูดาวเป็นจุดกางเต้นท์พักแรมและชมทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของขุนเขา

 

               9. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ท่านได้เดินเที่ยวชมพันธุ์ไม้ บรรยากาศสวย

 

               10. ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นเส้นทางล่องแก่งน้ำว้าระดับ 3 - 5 ประมาณ 20 กว่าแก่ง ต้องใช้เวลากับการ พักแรม กลางป่าระหว่างการล่องแก่งด้วย ซึ่งลำน้ำว้าเกิดจากเทือกเขาในเขตอุทยานขุนน่าน ไหลผ่านพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ผ่านอุทยานแห่งชาติแม่จริม ก่อนที่จะไหลไปรวมกับแม่น้ำน่าน

 

               11. ดอยภูแว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ยอดดอยมีความสูง 1,837 เมตรจากระดับ น้ำทะเล มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า ลานหิน หน้าผา และพันธุ์ไม้ที่สำคัญ อาทิ ดอกกุหลาบพันปี ค้อ ทุ่งดอกไม้ เป็น สถานที่ ชมวิวทิวทัศน์และทะเลหมอกอันสวยงาม การเดินทางสู่ดอยภูแวต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร มีลูกหาบไว้คอยบริการบ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก

 

               อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีบ้านพัก ร้านอาหาร อำนวยความสะดวกต่อผู้มาเยี่ยมเยือนคือ

 

               - บ้านภูคา1 ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พักได้จำนวน 7 คน

               - บ้านภูคา2 ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พักได้จำนวน 6 คน

               - บ้านภูคา3-7 ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พักได้จำนวน 16-20 คน

               - บ้านเกวียน พักได้จำนวน 2 คน ห้องน้ำรวม มีทั้งหมด 16 หลัง

               - สถานที่กางเต็นท์ มีอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ สถานที่กางเต็นท์ที่ 1-2 อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา สถานที่กางเต็นท์ที่ 3 อยู่บริเวณลานดูดาว สถานที่กางเต็นท์ทั้ง 3 แห่งนี้มีห้องน้ำ ห้องสุขาไว้บริการแก่ นักท่อง เที่ยวด้วยจองบ้านพักที่

               กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช   โทร. 0 2562 0760

               ป่าไม้จังหวัดน่านโทร. 0 5471 0815

               หรือ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0 1224 0789, 0 5470 1000 ตู้ปณ . 8 ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120

 

               หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่ http://www.dnp.go.th

 

               สอบถามรายละเอียดอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

               ตู้ ปณ.8 ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120 โทรศัพท์ 054-701 000

 

               การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

               1.โดยรถยนต์ส่วนตัว จากจังหวัดน่านไปตามทางหลวงหมายเลข 1080 ถึงอำเภอปัวระยะทาง 60 กม. แยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ระยะประมาณ 25 กม. รวมระยะทาง 85 กม. การเดิน ทางไปบ้านมณีพฤกษ์จากจังหวัดน่านไปตามทางหลวง หมายเลข 1080 ผ่าน อ.เชียงกลาง ระยะทางประมาณ 75 กม. แยกขวา บ้านนาหนุนเข้าบ้านมณีพฤกษ์ ระยะประมาณ 40 กม. รวมระยะทาง 115 กม.

               

               2.โดยรถยนต์ประจำทาง จาก กรุงเทพฯ ถึง อ.ปัว โดยรถปรับอากาศจากสถานนีขนส่งหมอชิตสายเหนือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชม. จากปัวถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีรถโดยสาร สายปัว-บ่อเกลือ เวลา 7.30 น., 9.30 น.,11.30 น. 14.00 น.

© 2023 by ADAM SCHARF. Proudly created with Wix.com

bottom of page